ค่ายมวยไทย ศิลปะการต่อสู้ในศึก ค่ายมวยในไทย
ค่ายมวยไทย มวยไทยนั้นจัดได้ว่าเป็นศิลปะป้องกันตัว ที่ดีที่สุดกว่าศิลปะป้องกันตัวอย่างแบบอื่นอย่างแน่นอน มันเป็นความโดดเด่นของทางด้าน การต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโจมตี การใช้ร่างกายทุกส่วนที่เอามาเป็นอาวุธในการ ป้องกันตัวเเละจู่โจมได้อย่างคล่องเเคล่วเเละรุนเเรง ซึ่งเรียกกันว่า “นวอาวุธ” ที่ได้เอาส่วนต่างๆของร่างกายได้แก่ ศอก เข่า หมัดรวมถึงเท้าที่จะเป็นอาวุธาชั้นยอด โดยที่ถ้าหากว่าทางผู้ฝึกฝนนั้น ได้มีการเตรียมตัวมาอย่างดีหรือ มีการฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ จะทำให้เกิดอนุภาพการทำลายที่รุนเเรงยิ่งนัก
มวยไทยเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังมาหลายปีเเล้ว ซึ่งก็อาจจะเริ่มจากการที่ นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมการชกมวย เเละก็เกิดความเลื่อมใสเเละศรัทธาในการที่จะ เรียนรู้ฝึกฝนเพราะสามารถเป็นสิ่งที่จะ ป้องกันตนเองได้อย่างดีเยี่ยมอีกทั้ง ยังเป็นการฝึกฝนทำให้ร่างกาย มีพละกำลังที่เเข็งเเรงรูปร่างดูดี เเละเมื่อชาวต่างชาติได้มีการฝึกฝน กันอย่างดีมากเเล้วก็ได้นำเอาสิ่งนี้ ไปประกอบอาชีพที่ประเทศบ้านเกิด เเต่ด้วยการฝึกฝนกีฬาประเภทนี้ ชาวไทยเราจะมีการเริ่มต้นฝึกฝนกันตั้งแต่เด็กๆ ก็เพราะว่าในเมื่อก่อนนั้นการขึ้นชกมวย เป็นสิ่งที่หาเลี้ยงชีพให้กับ คนในครอบครัวได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะ คนในพื้นที่ชนบทที่มีตัวเลือกในการทำงานที่น้อยมาก
ซึ่งเราจะเห็นได้ว่านักมวยที่เก่งๆหลายๆคนนั้น ก็ได้มีการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าส่วนใหญ่ที่ได้มีการฝึกฝนนั้น จำเป็นที่จะต้องเอาสิ่งนี้เป็นการเเลกเปลี่ยน เพื่อความอยู่รอดใช้เป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัว เป็นการเเบ่งเบาภาระได้ดีอีกทางหนึ่ง เเต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการ ฝึกทางด้านวินัยหรือปลูกจิตสำนึกใน วัฒนธรรมมวยไทยให้มีความรู้ในการป้องกันตนเอง หรือปกป้องคนใกล้เคียงเพราะว่า เเม่ไม้มวยไทยนั้นหากฝึกฝนจนเก่งเเล้ว คนธรรมดาอย่างเราก็ ไม่อาจจะที่จะเข้าไปทำร้ายหรือต่อสู้ได้เลย เพราะคนที่เป็นนักมวยก็จะ อาศัยจังหวะในการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นทั้งรุกเเละรับ
การที่เด็กได้ขึ้นชกนั้นก็อาจจะได้รับผลกระทบที่ตามมาด้วยอย่างเช่น อาการการบาดเจ็บบนเวที โดยที่ต่อมาทางภาครัฐก็ได้เล็งเห็นตรงนี้ว่า เป็นเรื่องที่อันตรายก็เลยมีการบังคับ ให้เด็กทุกคนที่ขึ้นชกจะต้อง สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเอาไว้ด้วย
การขึ้นชกก็หวังแค่เพียงเงินเดิมพันจากค่ายมวยเท่านั้น เเต่ต่อมาก็เข้าสู่อาชีพของการชกมวยอย่างเต็มตัว แต่ในขณะที่ชาวต่างชาติได้นำเอา ศิลปะป้องกันตัวนี้ ได้ไปเผยเเพร่ยังต่างประเทศก็ ไม่สามารถทำได้อย่างดีที่สุด เทียบเท่ากับการฝึกซ้อมในเมืองไทย ซึ่งการฝึกซ้อมที่ต่างประเทศก็ ไม่ได้รับความเป็นมืออาชีพที่เพียงพอ จนกระทั้งก็มีชาวต่างชาติหลายคน ที่ได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่อที่จะ เรียนรู้ศิลปะการต่อยมวยไทยอย่างเต็มรูปแบบ เพราะว่าได้ฝึกสอนกับผู้ที่มีความรู้ เเละก็ความสามารถเพราะบุคคลเหล่านั้น ที่ได้ผันตัวเองมาเป็นโค้ชหรือ มีการเปิดสอนค่ายมวยส่วนใหญ่เเล้ว ก็เคยผ่านการขึ้นชกในเวทีสำคัญๆเเทบทั้งนั้น
เเละในขณะเดียวกันก็ได้มีนักชกไทยบางคน ที่ได้หันมาเปิดค่ายมวยในต่างเเดนกันมากขึ้น เเละก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ได้มีการ เผยเเพร่วัฒนธรรมให้กับชาวต่างชาติ ได้เห็นศิลปะเเม่ไม้มวยไทย ซึ่งเมื่อมวยไทยเริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ศิลปะป้องกันตัวที่มีอยู่หลายๆประเทศอย่าง กังฟู คาราเต้ ก็ได้มีการจัดการเเข่งขันกันขึ้นมา แต่อาจจะมีการเปลี่ยนกฎกติกาไปบ้างเล็กน้อย เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดข้ดได้เปรียบเเละเสียเปรียบต่อกันอย่างเช่น การเเทงเข่าหรือการจับตีเข่า ก็ไม่สามารถทำได้ซึ่ง อาวุธในการออกของมวยไทยนั้น เป็นสิ่งรุนเเรงเป็นอย่างมาก อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้
ซึ่งก็เคยมีนักชกจากต่างประเทศ ก็เคยได้ประลองฝีมือกับนักมวยไทยมาเเล้วหลายคน โดยที่หนึ่งในนั้นก็คือ อี้หลง เป็นนักกังฟูชื่อดังจากประเทศจีน ที่มีฉายาว่า หลวงจีนเงินล้าน เเละก็มีนักชกอีกหลายคนที่เคยเข้ามา ประลองฝีมือกับนักมวยไทยซึ่งต่างก็มีผล ที่เเพ้เเละชนะแตกต่างกันออกไป เป็นการต่อสู้ที่ผสมผสานกัน โดยเมื่อก่อนเราจะเห็นการต่อสู้เพียงด้านเดียว อย่างมวยไทยและมวยสากล
ข้อใดคือหลักการของการชกมวยไทย ที่นักมวยฝึกหัดจะต้องรู้เกี่ยวกับ ความหมายของมวยไทย ค่ายมวยไทย
หลักการของการชกมวยนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ความพร้อมทางด้านร่างกายเเละจิตใจ เพราะว่าการชกในแต่ละครั้งนั้น มันต้องอาศัยความแข็งแกร่งของผู้ฝึกฝน เพราะว่าเวลาที่ขึ้นชกนั้นจะต้องมี การป้องกันตัวด้วยการ ยืนที่มั่งคงเเละแข็งเเรง มีความคล่องเเคล่วว่องไว ซึ่งการป้องกันนั้นก็จะมีปลายคาง หน้าท้องซี่โครง เเละช่วงขาบริเวณต้นขา ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้ คู่ต่อสู้ล้มลงหรือชนะน็อกได้ ด้วยเหตุนี้การฝึกฝนตรงส่วนตรงนี้ ก็ต้องมีความพร้อมเป็นอย่างมาก
โดยที่เราจะเห็นได้ว่าเวลาที่นักมวย วิ่งออกกำลังกายก็อาจจะใช้ยางล้อรถยนต์ ผูกติดกับเองเเล้วก็วิ่งไปข้างหน้า หรืออาจจะเป็นการกระโดด บนล้อยางเป็นเวลานานๆเพื่อที่จะ ฝึกฝนให้ส่วนขานั้นมีความเเข็งเเรงมากที่สุด เวลาที่โดนเตะขาหรือโดนเจาะขา เพราะว่าขานั้นเป็นส่วนสำคัญ ในการทรงตัวทั้งสองข้างหากว่า ขาของนักมวยไม่มีความเเข็งเเรง ก็อาจจะเป็นจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้ ได้โจมตีได้อย่างง่ายๆเลย
บริเวณต่อมาคือกล้ามหน้าท้องหรือชายซี่โครง เพราะการชกมวยนั้นก็จะมีการประชิดร่างกาย เเละทำลายคู่ต่อสู้ด้วยการใช้เข่าเเทงไปที่ บริเวณหน้าหน้าท้องหรือบริเวณด้านข้าง ซึ่งส่วนนี้ก็มีความบอบบางมาก หากว่าไม่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ก็อาจจะทำให้เกิดอาการทรุดลงได้ ซึ่งเราก็เคยเห็นกันอยู่บ่อยๆ เวลาที่มีการชกมวยตามสถานที่
เเละสุดท้ายบริเวณปลายคาง ที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดหากว่า โดนอย่างเข้าเต็มๆก็อาจจะทำให้สลบหรือ มึนงงได้อย่างเเน่นอนถึงเเม้ว่าจะมีการใส่ฟันปลอมเเล้วก็ตาม เเต่ด้วยอาวุธของนักมวยที่มีทั้งความหนักหน่วง ก็จะทำให้บริเวณนี้เป็นจุดตายได้อีกด้วย เเละการฝึกฝนในเบื้องต้นที่เราอาจจะเคยเห็นก็คือ นักมวยก็จะเอาเชือกเส้นใหญ่ ผูกติดกับสิ่งของหนักๆเเละก็ เอาฟันคาบหรือยกขึ้นมาเพื่อเป็นการ สร้างกล้ามเนื้อที่เเข็งเเรงในส่วนบริเวณฟันกราม
ประวัติไทยไฟท์ จุดเริ่มต้นการชกมวยระดับอินเตอร์ได้อย่างไร ดูไทยไฟท์
หลังจากที่เราได้เห็นการชกมวย ตามช่องทีวีต่างๆโดยที่ส่วนมากนั้น เราก็จะเห็นเเต่เฉพาะนักมวยไทยเท่านั้น เเต่หลังจากที่ชาวต่างชาติให้ความสำคัญ กับกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก ก็เลยเกิดอาชีพนักมวยที่มาจากต่างชาติ ลงทำการชิงชัยกันเนื่องจากว่า กระแสการตอบรับของนักมวยชาวต่างชาติ ได้มีเพิ่มมากขึ้นเเละก็ ได้มีการเเผ่ขยายไปทั่วโลก จนกระทั้งทางรัฐบาลก็ได้เล็งเห็นประโยชน์อย่างมากขึ้น ก็เลยพลักดันให้เป็นกีฬาประจำชาติ ซึงจัดเข้าไปอยู่ระดับรายการของโลกได้ ก็ได้มีการจัดการเเข่งขันอย่าง ไทยไฟท์ขึ้นมาโดยที่ทางบริษัทสปอร์ต อาร์ต จำกัด เป็นผู้สนับสนุนรายการดังกล่าว
เเละการเเข่งขันก็ได้เริ่มครั้งเเรกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553 โดยที่ในครั้งนั้นผู้ที่เป็นเเชมป์ได้แก่ ฟาบิโอ ปินก้า เป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศส ที่เอาชนะนักมวยไทยได้ เเละก็ถือเป็นนักชกคนเเรกที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยได้รับเงิน 2ล้านบาทเเละรถกระบะอีซูซุ
หลังจากที่ได้รับการตอบรับกันเป็นอย่างดี ก็ได้มีการจัดการ เสี่ยงโชครูเล็ต เเข่งขันขึ้นมาอีก โดยที่เป็นในรูปแบบอย่างเอ็กซ์ตรีม ที่จะกันที่ต่างประเทศอย่างฝรั่งเศส ฮ่องกง เเละญี่ปุ่น โดยเป็นการจัดขึ้นภายในปี พ.ศ. 2554เเละภายในปีเดียวกัน ก็ได้ถือกำเหนิดนักมวยไทยที่มีนามว่า บัวขาว ป.ประมุข ที่เป็นฝ่ายชนะคะแนน อับดาห์ลาห์ มาเบล ซึ่งในการเเข่งขันในวันนั้นก็ถือได้ว่า เป็นคู่เอกของรายการเลยทีเดียว
โดยที่กฎและกติกาดังกล่าวนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนเเปลง ให้เปลี่ยนจากเดิมที่ต้องชกกันทั้งหมด 5 ยกด้วยกันเเละเปลี่ยนมาให้เหลือ 3ยก ยกละ 3นาทีซึ่งก็เอากติกาเเบบมวยไทยทั้งหมด มาเป็นการตัดสินในการชกในแต่ละครั้ง อีกทั้งยังได้มีการกำหนดให้ใส่ชุดเเบบ สีแดงเเละสีน้ำเงิน หรือสีดำและสีขาว ก่อนที่จะทำการขึ้นชกนั้นจำเป็นจะต้องมี การไหว้ครูเพื่อที่จะลำลึกในบรรพบุรุตที่เคยมีมาในอดีต ประกอบกับดนตรีไทยประกอบอีกด้วย ในช่วงที่มีการขึ้นชกกัน เพื่อที่จะเป็นการสร้างบรรยากาศในสนาม ให้มีความคล้ายกับการชกมวยไทย
รายชื่อเเชมป์นักมวยไทยไฟท์ 2020 กับประวัติของ แชมป์มวยไทยประเทศไทย
หลังจากได้มีการก่อตั้งการเเข่งขัน ชกมวย Thai Fight ก็มีนักมวยหลายรุ่นที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเเชมป์กับ ทางสถาบันแห่งนี้โดยที่ในปี ค่ายมวย สาทร
2010 นักมวยจากประเทศฝรั่งเศส ก็ได้เป็นเเชมป์นักชกคนเเรกที่มีชื่อว่า ฟาบิโอ บินก้า สามารถที่จะเอาชนะคะแนนทางนักชกไทยอย่าง เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส เเละก็คว้าเเชมป์ไปครองได้อย่างสำเร็จ
ในปี 2011 ยอดนักมวยไทยก็ได้ประกาสศักดา ให้โลกได้รู้ว่านักมวยไทยนั้น มีความสามารถเพียงใดโดยที่ทาง บัวขาว ป.ประมุข สามารถที่จะป้องกันเเชมป์เอาไว้ได้อย่างสำเร็จโดยการเอานชนะนักชกจาก เบลารุส โดยนายวิตาลี่ เฮอร์คู เเละก็ได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในขณะเดียวกันนักชกไทยอีกหนึ่งคนก็ ได้เเชมป์เช่นเดียวกันก็คือ สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ ที่คว้าเเชมป์ในรุ่น 67 กก.ไปครอง
ในปี 2013 ทางด้านผู้สนับสนุนอย่าง ASTV ผู้จัดการรายวัน ที่เป็นผู้จัดการในรายการนี้ต่างก็ต้องฟ้องร้องค่าเสียหายกับทาง บัวขาว ป.ประมุข ที่ได้มีการละเมิดสัญญาเนื่องด้วยตัวเขานั้นได้ไปชกในรายการอย่าง ขะแมร์ไฟเตอร์ จนทำให้เกิดรอยร้าวเเละก็ต้องแยกทางจากกัน ซึ่งยังคงมีสัญญาเหลืออยู่อีก 2 ปี
เเละมีนักมวยไทยไฟต์ของไทยคนไหนบ้าง ที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากซึ่งก็ได้แก่
1. อิกคิวซัง ก.รุ่งธนเกียรติ
ตัวเขาเองเริ่มต้นชกมวยตอนอายุเพียง 10ปีเท่านั้น เป็นนักชกที่ทำให้ผู้ชมนั้น เกิดความบันเทิงเป็นอย่างมาก จากลีลาที่ไม่เหมือนใครชกกันอย่างสนุก ก็เลยทำให้ชื่อเสียงของเขานั้น เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี
2. ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วงวินดี้สปอร์ต
เริ่มต้นการชกด้วยอายุเพียง 11ปีเท่านั้นเเละก็เริ่มฉายเเววมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั้งคว้าเเชมป์รายการใหญ่ๆได้หลายรายการ เเละก็ได้รับเลือกให้เข้ามาชกในรายการไทยไฟต์ เเละก็ชนะทางด้าน ฟาบิโอ ปินก้า ที่เป็นนักชกจากประเทศฝรั่งเศส ก็เลยทำให้เขานั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงขนาดนี้
3. สุดสาคร ส.กลิ่นมี
เป็นนักชกที่ขึ้นชกที่ไรเป็นที่ถูกอกถูกใจเเฟนๆเป็นอย่างมาก เริ่มต้นการชกมวยตอนอายุ 6ขวบเท่านั้น เเต่ผิดหวังกับรายการ Thai Fight ที่ไม่ประสบความสำเร็จแต่ด้วยความพยายาม ก็ได้สร้างชื่อให้กับตนเองในรายการอื่นๆ จนทำให้เป็นขวัญใจคอมวยทั้งหลาย
4. เเสนชัย พี.เค.เเสนชัยมวยไทยยิม
เริ่มต้นชกมวยตอนอายุยังน้อย เเละสิ่งที่สร้างให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วก็คือ เป็นเเชมป์รายการ PABA เเละก็ยังได้เป็นนักฟุตบอลเมืองทองหนองจอกอีกด้วย ปัจจุบันคอมวยก็รู้จักเเละเป็นที่ชื่นชอบกันหลายคน
5. บัวขาว บัญชาเมฆ
ขวัญใจคอมวยเมืองไทยที่คงไม่มีใคร ที่จะไม่รู้จักเลยเพราะเขาได้สร้างเเชมป์เอาไว้อย่างมากมายเเละก็ ได้ล้มคู่เเข่งนักชกจากประเทศอื่นรวมไปถึง ศิลปะป้องกันของประเทศอื่น เเละนักชกทั่วโลกก็ต้องการที่จะประลองกับเขาอย่างเเน่นอน สำหรับใครที่ติดตามผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง ก็จะได้รู้ว่าการชกของบัวขาวนั้น มีความเป็นมาอย่างไรบ้าง